ความเป็นมาของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ศึกษาศาสตร์)
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ศึกษาศาสตร์) เดิมชื่อ “โรงเรียนสาธิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 โดย ดร. สายสุรี จุติกุล คณบดีคนแรกของคณะศึกษาศาสตร์ เนื่องจากโรงเรียนสาธิตเป็นโรงเรียนที่ทดลองหลักวิชาการต่าง ๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องจัดการเรียนการสอนเหมือนโรงเรียนทั่วไป จึงตั้งขึ้นด้วยความเชื่อที่เป็นหลักในการจัดการเรียนการสอนดังนี้
1. โรงเรียนเป็นสถานที่ให้ความรู้ด้านวิชาการและต้องทำหน้าที่หลักของการอบรมบ่มนิสัยให้เด็กเป็นคนดีมีหน้าที่ช่วยปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม โรงเรียนสาธิตเป็นสถาบันสังคมแห่งที่สองของชีวิตคน ดังนั้นโรงเรียนสาธิตระดับอนุบาล และระดับประถมจึงยังคงมีบรรยากาศของความรัก ความอบอุ่น ความใกล้ชิด คล้ายคลึงกับบ้าน เพื่อให้เด็กค่อย ๆ ปรับตัว สามารถลดการพึ่งพาผู้อื่นไปตามระดับอายุที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้การเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดี สะอาด ร่มรื่น สวยงาม จะช่วยกล่อมเกลาจิตใจและสร้างความสุนทรีย์ในใจเด็กได้โรงเรียนของเราจึงมีการก่อสร้างเหมือนบ้านหลังเล็กๆ ซึ่งเราเรียกกันว่า “ยูนิท หรือ หน่วย” ชั้นหนึ่งก็เป็นยูนิทหนึ่ง ภายในมีห้องน้ำ ห้องสุขา มีบริเวณมุมหนังสือ และมุมกิจกรรมต่างๆ สร้างบรรยากาศให้อยากเรียนรู้ ยูนิทเหล่านี้เรียงรายลดหลั่นกลมกลืนกับพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่พยายามดูแลให้สวยงามอยู่เสมอ
2. บุคคลมีความแตกต่างกัน เช่น ความสนใจ ความถนัด ความสามารถ ความแตกต่างที่หลากหลายเหล่านี้เมื่อมารวมประกอบเข้าด้วยกัน จะสร้างสรรค์สังคม สร้างสรรค์โลก ทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันในความแตกต่างเหล่านี้อย่างมีความสุข โรงเรียนจึงใช้วิธีการเรียนการสอนที่หลากหลาย ส่งเสริมให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองจากกิจกรรมต่าง ๆ กำหนดการเรียนการสอนตามลำดับ ไม่กำหนดการสอบปลายปีในลักษณะสอบได้สอบตก แต่มีการประเมินทุกวิชาที่เรียน และส่งเสริมให้นักเรียนแต่ละคนเรียนไปตามความสามารถของตนเอง เช่น บางคนเรียนยูนิทเอ แต่เก่งคณิตศาสตร์ สามารถข้ามไปเรียนคณิตศาสตร์ของยูนิทบีได้ และยังมีการฝึกวินัยตนเองเพื่อการอยู่ร่วมกัน ตลอดจนมีน้ำใจซึ่งกันและกัน
3. การประเมินผลการเรียนของนักเรียน ต้องประเมินพัฒนาการทุกด้านไม่ใช่ประเมินเพียงด้านวิชาการและการประเมินผล ที่มีจุดมุ่งหมาย เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้การพัฒนาของเด็กเป็นไปด้วยดีและราบรื่นโรงเรียนจึงมีระบบการประเมินผลที่ผู้ปกครองต้องมารับทราบ รับรู้ร่วมปรึกษากับครูในจุดต่างๆ ที่จะช่วยให้ลูกหลานพัฒนาไปด้วยดี โดยประเมินพัฒนาการด้านอารมณ์ สังคม ความรับผิดชอบ ไม่เพียงแต่ประเมินเฉพาะด้านวิชาการเท่านั้น ซึ่งต่อมาหลักสูตรประถมศึกษาทั่วประเทศก็ได้ใช้หลักการนี้เช่นกันในคราวประกาศใช้หลักสูตร พ.ศ. 2521การจัดการเรียนการสอนในสภาพดังกล่าว ผู้เยี่ยมชมโรงเรียนหลายคนให้ความเห็นว่าโรงเรียนของเรา เหมือนโรงเรียนสมัยโบราณที่นักเรียนไม่ต้องถูกจำกัดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม นั่งโต๊ะ ที่เรียงเป็นแถวแต่เรียนกันบนศาลาวัด จะลุกนั่งไปเรียนไปเขียนที่ไหนก็ได้ พระก็จะสอนต่อหนังสือให้เป็นรายบุคคลใครเรียนถึงไหนก็ต่อกันไป ไม่จำเป็นต้องเปิดหนังสือเรียนหน้าเดียวกัน ปิดหนังสือจบหน้าเดียวกัน ลูกศิษย์วัดคนใดหน่วยก้านไปทางใด พระก็จะแนะนำหรือสอนเพิ่มเติมให้ในแนวทางนั้น เล่าขานกันมาว่าผู้ที่เปรียบเทียบโรงเรียนสาธิตเหมือนศาลาวัด คือ ศาสตราจารย์ ดร.ก่อ สวัสดิพาณิชย์ ทางโรงเรียนจึงได้ นำคำนั้นมาใช้เรียกระบบการจัดการเรียนการสอนของเราว่าเป็นระบบ “ศาลาวัด” กาลเวลาที่ผ่านมาโรงเรียนสาธิตได้ปรับเปลี่ยนไปบ้างแต่หลักการส่วนใหญ่ของเรายังคงอยู่ เช่น การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น การให้อิสระเสรีกับนักเรียนในกรอบเพื่อสร้างวินัยในตนเอง การใช้วิธีการสอนและการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ตลอดจนการประเมินผลที่เน้นการพัฒนาทุกด้านต่อมาพบว่าในกลุ่มเด็กอายุวัยเดียวกัน ความแตกต่างไม่ห่างไกลกัน และการรอให้เด็กเรียนไปตามความสามารถของแต่ละบุคคลโดยใช้เวลาตัดสินถึง 6 ปี ยาวเกินไป จึงได้เริ่มมีการปรับให้มีการสอบรวบยอดเพื่อเลื่อนชั้นทุกปี
ในปีการศึกษา 2545 โรงเรียนได้ปรับเปลี่ยนหลักสูตรตามการเปลี่ยนแปลงของหลักสูตรการศึกษา ขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วงชั้น ทั้งนี้ทางโรงเรียนได้มีการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียน โดยแบ่งออกเป็น 8กลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนส่วนการวัดและประเมินผลทางโรงเรียนได้ยึดตามแนวทางของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนได้มีการจัดโครงการหลักสูตรทางเลือกคู่ขนานในระดับชั้นยูนิทดี ควบคู่ไปกับหลักสูตรปกติ ชื่อว่า “โครงการส่งเสริมศักยภาพทางด้านภาษาต่างประเทศ” โดยมีจำนวนชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าหลักสูตรปกติและเรียนกับชาวต่างประเทศ
และในปีการศึกษา 2552 ได้จัดการเรียนการสอนเพิ่มในระดับชั้นยูนิทเอ ซึ่งจะครบทุกชั้นในปีการศึกษา 2554 สำหรับปีการศึกษา 2552 โรงเรียนได้เป็นโรงเรียนนำร่องในการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตั้งแต่ระดับชั้นยูนิทเอ-ยูนิทเอฟ ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวกระทรวงศึกษาธิการได้ปรับปรุงจากหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 และในปัจจุบัน (ปีการศึกษา 2555) โรงเรียนใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของกระทรวงศึกษาธิการ อย่างไรก็ตามโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ศึกษาศาสตร์) ยังยึดมั่นในหลักการสำคัญ ที่เราเชื่อมั่นมาตั้งแต่เริ่มต้น